1. เมื่อ 15 – 17 ตุลาคม 2568 U Ko Ko Lwin รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานเมียนมาเดินทางเยือนรัสเซียเพื่อเข้าร่วม Russia Energy Week International Forum (REW) ครั้งที่ 8 สาระสำคัญ ดังนี้

1.1 เมื่อ 15 ตุลาคม 2568 U Ko Ko Lwin ได้พบหารือกับนาย Sergey Tumanov ผู้อำนวยการ Gazprom International Limited และนาย Sergey Kudryashov ผู้อำนวยการ Zarubezhneft JSC ในประเด็นเรื่องการลงทุนด้านการสำรวจ ขุดเจาะ และผลิตน้ำมันและก๊าซธรรมชาติ โอกาสในการซื้อขายพลังงานโดยใช้ท่าเรือของเมียนมา และศักยภาพในการจัดตั้งโรงกลั่นน้ำมันในเมียนมา ซึ่งจะช่วยให้สามารถจัดจำหน่ายและกระจายผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมได้ทั้งในประเทศและในภูมิภาค

1.2 เมื่อ 16 ตุลาคม 2568 U Ko Ko Lwin ได้พบหารือกับนาย Shatirov Sergey Valdimirovich กงสุลกิตติมศักดิ์เมียนมาประจำรัสเซีย และผู้อำนวยการ Roscongress Investment Fund โดยทั้งสองฝ่ายได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับความคืบหน้าของความร่วมมือระหว่างเมียนมากับ Roscongress Investment Fund แผนการส่งเสริมความร่วมมือด้านพลังงานในอนาคต และการเร่งรัดกิจกรรมเพื่อขับเคลื่อนการเติบโตทางเศรษฐกิจร่วมกัน

1.3 เมื่อ 17 ตุลาคม 2568 U Ko Ko Lwin ได้พบหารือกับนาย Sergey Tsivilyov รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานรัสเซีย โดยมีผู้แทนจาก INTER RAO Export and JSC RosGeo รัฐวิสาหกิจด้านกิจการพลังงานของรัสเซียเข้าร่วมด้วย ในการหารือทั้งสองฝ่ายได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นในหลายประเด็น อาทิ (1)  ความร่วมมือด้านพลังงานระหว่างเมียนมาและรัสเซีย (2) การพัฒนาเทคโนโลยีในอุตสาหกรรมน้ำมันและก๊าซ (3)  การจัดฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการเพื่อพัฒนาบุคลากรในด้านวิศวกรรมธรณีฟิสิกส์และปิโตรเลียม (4) การผลิตไฟฟ้าจากถ่านหิน (5) การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตน้ำมันและก๊าซธรรมชาติ และ (6) การยกระดับขีดความสามารถของกังหันที่ใช้ก๊าซธรรมชาติเป็นเชื้อเพลิง โดยภายหลังการหารือทั้งสองฝ่ายได้ลงนามบันทึกความเข้าใจระหว่าง กระทรวงพลังงานเมียนมาและบริษัท JSC RosGeo เพื่อดำเนินโครงการนำร่องในการใช้เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) เพื่อสกัดก๊าซธรรมชาติจากทรายจากบ่อน้ำมันจำนวน 5 บ่อในแหล่งก๊าซธรรมชาติ Aphyauk ในเมียนมา โดยโครงการดังกล่าวถือเป็นโครงการแรกในภาคการผลิตน้ำมันและก๊าซธรรมชาติของเมียนมาที่จะนำเทคโนโลยี AI มาใช้ในการผลิตเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและผลผลิต

1.4 หลังการลงนามบันทึกความเข้าใจข้างต้น U Ko Ko Lwin ได้พบหารือกับ (1) นาย Sergey Ratkov ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท JSC RosGeo ในเรื่องการพัฒนาแหล่งน้ำมันโดยใช้ AI และเทคโนโลยี GeoAudit ในการบริหารจัดการและสำรวจแหล่งน้ำมันและก๊าซธรรมชาติใต้ดินที่มีศักยภาพ การจัดทำแผนที่ธรณีวิทยาโดยใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ และการจัดทำโครงการฝึกอบรมสำหรับพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ในสาขาธรณีวิทยาและธรณีฟิสิกส์ และ (2) ผู้อำนวยการใหญ่บริษัท Gazprom International Limited รัฐวิสาหกิจของรัสเซียในประเด็นด้านวิศวกรรมที่เกี่ยวกับการก่อสร้างโรงกลั่นน้ำมันที่ท่าเรือน้ำลึกทวาย การจัดหาน้ำมันดิบที่จำเป็น โอกาสในการกระจายและจำหน่ายน้ำมันทั้งในประเทศและในภูมิภาค แนวทางในการปรับปรุงท่อส่งน้ำมันและก๊าซธรรมชาติ และการส่งผู้เชี่ยวชาญไปจัดทำการศึกษาความเป็นไปได้ของโครงการในอนาคตอีกด้วย

2. เมื่อ 18 – 22 ตุลาคม 2568 U Ko Ko Lwin เดินทางเยือนจีนเพื่อร่วมการประชุม 2025 International Forum on Energy Transition และพบหารือกับหน่วยงานด้านพลังงานของจีน สาระสำคัญ ดังนี้

2.1 เมื่อวันที่ 18 ตุลาคม 2568 U Ko Ko Lwin ได้เยี่ยมชมแหล่งผลิตน้ำมันที่มีอายุเยอะในมณฑล Yulin โดยมีประธานบริษัท Yan Chang ซึ่งเป็นรัฐวิสาหกิจของจีนให้ข้อมูลเกี่ยวกับการใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ในการเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมัน การบำรุงรักษาแหล่งน้ำมัน การบำบัดน้ำที่ฉีดเข้าไปในบ่อน้ำมัน การควบคุมระบบผลิตด้วยวิธีดิจิทัล และมาตรการคุ้มครองสิ่งแวดล้อม

2.2 วันที่ 19 ตุลาคม 2568 U Ko Ko Lwin ได้รับฟังการบรรยายที่บริษัท North Petroleum & Chemical Corporation เกี่ยวกับมาตรการเพิ่มกำลังการผลิตที่แหล่งผลิตน้ำมันที่มีอายุเยอะ การใช้เทคโนโลยีและขั้นตอนที่เหมาะสมกับบ่อน้ำมันของเมียนมาโดยคำนึงถึงสภาพประเด็นด้านธรณีวิทยาและดิน การบริหารจัดการด้วยระบบดิจิทัล และประโยชน์ที่ได้จากการใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ ทั้งนี้  U Ko Ko Lwin ได้เชิญชวนให้บริษัทดังกล่าวเข้ามาลงทุนใน มม. และแจ้งความประสงค์ที่จะส่งเจ้าหน้าที่เมียนมาไปฝึกอบรมและแลกเปลี่ยนเทคโนโลยีที่มหาวิทยาลัยด้านน้ำมันและก๊าซธรรมชาติของจีน

2.3 ระหว่างวันที่ 21 - 22 ตุลาคม 2568 U Ko Ko Lwin ได้พบหารือกับผู้บริหารหน่วยงานด้านพลังงานของจีน ได้แก่ (1) บริษัท China National Oil & Gas Exploration and Development Corporation (CNODC) (2) บริษัท Canadian Foresight Group (CFG) และ China Oilfield Services Limited (COSL) (3) บริษัท China National Petroleum Corporation (CNPC) และ (4) บริษัท Sino-Pipeline International (SPI) เกี่ยวกับความร่วมมือในการสำรวจ ขุดเจาะ และผลิตน้ำมันและก๊าซธรรมชาติในพื้นที่นอกชายฝั่งของเมียนมา การส่งเจ้าหน้าที่เมียนมาไปฝึกงานที่โครงการนอกชายฝั่งของจีนในด้านการบริหารจัดการ เศรษฐศาสตร์และกฎหมาย การแลกเปลี่ยนคณะทำงานเพื่อพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ การลงทุนเพิ่มเติมในโครงการด้านพลังงาน โครงการโรงกลั่นน้ำมัน Thanbayakan ของเมียนมา การก่อสร้างโรงกลั่นน้ำมัน การจัดทำการศึกษาการใช้ประโยชน์จากท่อส่งก๊าซและน้ำมันธรรมชาติที่มีอยู่ การส่งก๊าซธรรมชาติผ่านท่อก๊าซที่มีอยู่ในภูมิภาคเอชียตะวันออกเฉียงใต้ การเชื่อมท่อส่งน้ำมันและก๊าซธรรมชาติสำหรับโครงการโรงกลั่นน้ำมันใหม่ และการรักษาความปลอดภัยในพื้นที่ท่อก๊าซและน้ำมัน

2.4 เมื่อวันที่ 24 ตุลาคม 2568 U Ko Ko Lwin ได้เข้าร่วม 2025 International Forum on Energy Transition ซึ่งจัดโดย National Energy Administration (NEA) ของจีน โดยได้กล่าวสุนทรพจน์ในหัวข้อ Myanmar’s Participation in Energy Security, Energy Safety, and the Energy Transition เกี่ยวกับสถานการณ์พลังงานทั้งในระดับโลกและภายในเมียนมา โดยได้เน้นย้ำโอกาสในการลงทุนในภาคพลังงานในเมียนมา ความพยายามของเมียนมาในการดึงดูดการลงทุนจากต่าชาติ ความร่วมมือในด้านความช่วยเหลือด้านเทคนิค และความจำเป็นที่จะต้องมีความร่วมมือระดับโลกในการแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมผ่านการเปลี่ยนผ่านพลังงาน นอกจากนี้ U Ko Ko Lwin ยังได้พบหารือกับนาย Wang Hongzhi ประธาน NEA โดยทั้งสองฝ่ายได้หารือเกี่ยวกับความร่วมมือด้านพลังงานในรูปแบบทวิภาคี โดยจีนพร้อมสนับสนุนเมียนมาในด้านเทคโนโลยี เงินทุน การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ เพื่อเปลี่ยนผ่านการใช้พลังงานในเมียนมาไปสู่พลังงานสีเขียวและพลังงานใหม่ (New Energy) และระบบไฟฟ้าที่ใช้ปัญญาประดิษฐ์ (AI)

ที่มา

1. https://www.gnlm.com.mm/myanmar-delegation-joins-8th-russia-energy-week-forum/
2. https://www.gnlm.com.mm/moe-union-minister-leads-delegation-in-talks-with-russian-energy-minister/
3. https://www.gnlm.com.mm/myanmar-delegation-visit-chinas-oil-fields-3d-seismic-equipment-factory/
4. https://www.gnlm.com.mm/myanmar-and-china-to-strengthen-energy-cooperation/
5. https://www.gnlm.com.mm/moe-union-minister-joins-2025-international-forum-on-energy-transition-in-china/