กฎหมายว่าด้วยการลงทุนแห่งเมียนมา (Myanmar Investment Law)

กฎหมายว่าด้วยการลงทุนแห่งเมียนมา (Myanmar Investment Law)

วันที่นำเข้าข้อมูล 30 ก.ค. 2568

วันที่ปรับปรุงข้อมูล 7 ส.ค. 2568

| 2,781 view

กฎหมายว่าด้วยการลงทุนแห่งเมียนมา

(กฎหมายรัฐบัญญัติฉบับที่ 40/2016) แรม 2 ค่ำ เดือน 11 จุลศักราช 1378
(วันที่ 18 เดือนตุลาคม พุทธศักราช 2559) รัฐสภาได้ตรากฎหมายนี้ไว้ดังต่อไปนี้

หมวด 1
ชื่อกฎหมายและคำจำกัดความ

  1. กฎหมายนี้เรียกว่ากฎหมายว่าด้วยการลงทุนแห่งเมียนมา
  2. ในกฎหมายฉบับนี้ ให้คำต่อไปนี้มีความหมายดังนี้

(เอ)

สหภาพเมียนมา หมายความว่า สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา

(บี)

ประธานาธิบดี หมายความว่า ประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา

(ซี)

รัฐบาล หมายความว่า รัฐบาลแห่งสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา

(ดี)

กระทรวง หมายความว่า กระทรวงการวางแผนและการเงินแห่งรัฐบาลเมียนมา

(อี)

คณะกรรมการ หมายความว่า คณะกรรมการการลงทุนแห่งเมียนมาที่จัดตั้งขึ้นตามกฎหมายนี้

(เอฟ)

กรรมการ หมายความว่า กรรมการในคณะกรรมการการลงทุนแห่งเมียนมา และหมายความรวมถึงประธานกรรมการและรองประธานกรรมการ

(จี)

สำนักงานคณะกรรมการ หมายความว่า สำนักงานคณะกรรมาธิการกำกับดูแลด้านการลงทุนและบริษัท ซึ่งรับผิดชอบการดำเนินการของคณะกรรมการ

(เอช)

เลขานุการ หมายความว่า เลขานุการของคณะกรรมการการลงทุนแห่งเมียนมา ซึ่งรับผิดชอบการดำเนินการด้านการบริหารจัดการของสำนักงานคณะกรรมการ

(ไอ)

คำขอ หมายความว่า คำขอที่ผู้ลงทุนยื่นตามแบบที่กำหนด พร้อมสัญญาและเอกสารตามที่กำหนดให้ต้องยื่นพร้อมกัน เพื่อขอรับใบอนุญาตจากคณะกรรมการสำหรับการลงทุนที่ผู้ลงทุนประสงค์จะลงทุน ตามที่กำหนดไว้ในข้อ 36

(เจ)

ใบอนุญาต หมายความว่า คำสั่งอนุญาตของคณะกรรมการเกี่ยวกับคำขออนุญาตลงทุนที่ยื่นโดยผู้ลงทุน

(เค)

คำขอรับคำสั่งให้ความเห็นชอบ หมายความว่า คำขอที่ผู้ลงทุนยื่นตามแบบที่กำหนด พร้อมสัญญาและเอกสารตามที่กำหนดให้ต้องยื่นพร้อมกัน เพื่อขอรับคำสั่งให้ความเห็นชอบจากคณะกรรมการเพื่อให้มีสิทธิได้รับประโยชน์เกี่ยวกับการใช้สิทธิในที่ดินตามหมวด 12 และได้รับการยกเว้นและการลดหย่อนตามข้อ 75 ข้อ 77 และข้อ 78 ในหมวด 17

(แอล)

คำสั่งให้ความเห็นชอบ หมายความว่า คำสั่งให้ความเห็นชอบที่คณะกรรมการให้ตามคำขอรับคำสั่งให้ความเห็นชอบที่ยื่นโดยผู้ลงทุน

(เอ็ม)

พลเมือง หมายความว่า พลเมืองเมียนมา พลเมืองเมียนมาประเภท Associate citizen หรือพลเมืองที่แปลงสัญชาติเป็นชาวเมียนมา (Naturalized citizen) เพื่อวัตถุประสงค์ของกฎหมายนี้ โดยให้หมายความรวมถึงนิติบุคคลที่ประกอบด้วยพลเมืองเท่านั้นด้วย

(เอ็น)

ผู้ลงทุนที่เป็นพลเมืองเมียนมา หมายความว่า พลเมืองซึ่งลงทุนในสหภาพเมียนมา โดยให้หมายความรวมถึงบริษัทเมียนมาและสำนักงานสาขาของบริษัทเมียนมา ตลอดจนนิติบุคคลอื่นที่จดทะเบียนจัดตั้งขึ้นตามกฎหมายบริษัทแห่งเมียนมา

(โอ)

ผู้ลงทุนต่างชาติ หมายความว่า บุคคลซึ่งลงทุนในสหภาพเมียนมาที่ไม่ใช่พลเมือง โดยให้หมายความรวมถึงบริษัทต่างชาติ สำนักงานสาขาของบริษัทต่างชาติ และนิติบุคคลอื่นที่จดทะเบียนและจัดตั้งขึ้นตามกฎหมายบริษัทแห่งเมียนมาและนิติบุคคลที่จัดตั้งขึ้นตามกฎหมายแห่งประเทศอื่นใด

(พี)

ผู้ลงทุน หมายความว่า ผู้ลงทุนที่เป็นพลเมืองเมียนมา หรือผู้ลงทุนต่างชาติซึ่งลงทุนในสหภาพเมียนมาตามกฎหมาย

(คิว)

การลงทุน หมายความว่า ทรัพย์สินใดๆ ที่ผู้ลงทุนเป็นเจ้าของหรือเป็นผู้ควบคุมตามกฎหมายนี้ และรวมถึงการลงทุนตามที่กล่าวไว้ในข้อ 40 ด้วย

(อาร์)

การลงทุนโดยตรง หมายความว่า การลงทุนซึ่งผู้ลงทุนมีอำนาจควบคุม ครอบงำ หรือจัดการทรัพย์สินที่ผู้ลงทุนนำมาลงทุนในสหภาพเมียนมาตามกฎหมาย

(เอส)

การลงทุนโดยผู้ลงทุนต่างชาติ หมายความว่า การลงทุนโดยตรงใดๆ ในสหภาพเมียนมาโดยผู้ลงทุนต่างชาติ

(ที)

นิติบุคคล หมายความว่า

(i)

นิติบุคคลใดๆ รวมถึงบริษัท ทรัสต์ ห้างหุ้นส่วน กิจการที่มีเจ้าของรายเดียว กิจการร่วมค้า สมาคมทางธุรกิจ หรือองค์กรอื่นในลักษณะเดียวกัน ซึ่งจัดตั้งหรือได้รับจดทะเบียนให้ประกอบกิจการตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง

(ii)

สำนักงานสาขาของนิติบุคคลที่จัดตั้งขึ้นตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง

(ยู)

สกุลเงินที่ใช้ได้โดยเสรี หมายความว่า สกุลเงินของสมาชิกกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ที่ใช้ในการชำระเงินสำหรับธุรกรรมระหว่างประเทศและใช้ในการแลกเปลี่ยนอย่างกว้างขวางในตลาดแลกเปลี่ยนสกุลเงินต่างประเทศตามข้อ 30(เอฟ) แห่งข้อสัญญาแห่งกองทุนการเงินระหว่างประเทศ และฉบับที่แก้ไขเพิ่มเติมใดๆ

(วี)

การยกเว้นและการลดหย่อน หมายความว่า การยกเว้นและการลดหย่อนภาษีเงินได้ ภาษีศุลกากร และภาษีอื่นๆ ที่จัดเก็บภายในประเทศ ที่คณะกรรมการอาจพิจารณาให้ตามคำขอของผู้ลงทุนสำหรับการลงทุนที่ได้รับใบอนุญาตหรือคำสั่งให้ความเห็นชอบของคณะกรรมการตามกฎหมายนี้

(ดับเบิลยู)

มาตรการ หมายความว่า กฎหมาย หลักเกณฑ์ ระเบียบ วิธีการ คำตัดสิน และการกระทำทางปกครองที่ประกาศใช้หรือกำหนดโดยกรม หน่วยงานของรัฐ หรือองค์กรที่ไม่ใช่ของรัฐซึ่งได้รับมอบอำนาจจากกรมหรือหน่วยงานของรัฐ


หมวด 2
วัตถุประสงค์

  1. กฎหมายนี้มีวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้

(เอ)

เพื่อพัฒนาให้ภาคธุรกิจมีการลงทุนอย่างรับผิดชอบ ซึ่งไม่ก่อให้เกิดผลเสียต่อสภาพแวดล้อมทางธรรมชาติและสภาพแวดล้อมทางสังคม เพื่อประโยชน์ของสหภาพเมียนมาและพลเมืองของสหภาพเมียนมา

(บี)

เพื่อปกป้องผู้ลงทุนและการลงทุนของผู้ลงทุนตามกฎหมายนี้

(ซี)

เพื่อสร้างโอกาสทางอาชีพให้แก่ประชาชน

(ดี)

เพื่อพัฒนาทรัพยากรมนุษย์

(อี)

เพื่อพัฒนาให้ภาคการผลิต ภาคบริการ และการค้าเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพอย่างสูง

(เอฟ)

เพื่อให้เกิดการพัฒนาในด้านเทคโนโลยี เกษตรกรรม ปศุสัตว์ และอุตสาหกรรม

(จี)

เพื่อยกระดับวิชาชีพต่างๆ รวมถึงด้านโครงสร้างพื้นฐานทั่วสหภาพเมียนมา

(เอช)

เพื่อให้พลเมืองมีโอกาสได้ทำงานร่วมกับต่างชาติ และ

(ไอ)

เพื่อพัฒนาให้ธุรกิจและการลงทุนเป็นไปตามมาตรฐานสากล


หมวด 3
ขอบเขตของกฎหมาย

  1. กฎหมายนี้ใช้บังคับกับการลงทุนทั้งหมดในสหภาพเมียนมา ทั้งที่มีอยู่แล้ว ณ วันที่กฎหมายนี้เริ่มมีผลบังคับใช้ และที่มีขึ้นใหม่ แต่ไม่ใช้บังคับกับข้อพิพาทเกี่ยวกับการลงทุนใดๆ ที่เกิดขึ้นแล้วหรือการลงทุนที่ได้รับใบอนุญาตแล้วแต่ถูกระงับการประกอบกิจการของตนก่อนวันที่กฎหมายนี้เริ่มมีผลบังคับใช้
  2. กฎหมายนี้ใช้กับมาตรการการลงทุนใดๆ ที่ออกโดยกรมและหน่วยงานของรัฐ เว้นแต่มาตรการตามบทบัญญัติในหมวด 21 และหมวด 22 ของกฎหมายนี้


หมวด 4
การจัดตั้งคณะกรรมการ

  1. ให้คณะกรรมการประกอบด้วยบุคคลต่อไปนี้

(เอ)

ประธานกรรมการ ซึ่งรัฐบาลแต่งตั้งจากสมาชิกของรัฐบาลที่ประธานาธิบดีเป็นผู้เสนอรายชื่อ

(บี)

รองประธานกรรมการ ซึ่งแต่งตั้งโดยรัฐบาล

(ซี)

กรรมการ ซึ่งรัฐบาลแต่งตั้งจากบุคคลที่เหมาะสมซึ่งมีตำแหน่งอยู่ในกระทรวง กรม หน่วยงานของรัฐ ผู้เชี่ยวชาญจากภาคเอกชน ผู้ประกอบวิชาชีพ และผู้ทรงคุณวุฒิ

(ดี)

เลขานุการ ซึ่งแต่งตั้งโดยตำแหน่งของผู้ดำรงตำแหน่งเป็นหัวหน้าสำนักงานคณะกรรมการ

  1. ให้รัฐบาลจัดตั้งคณะกรรมการซึ่งประกอบด้วยกรรมการเก้ารายหรือกว่านั้นซึ่งเป็นจำนวนคี่เมื่อรวมเลขานุการแล้ว โดยมีบุคคลตามที่กล่าวไว้ในข้อ 6
  2. กรรมการในคณะกรรมการที่ไม่ใช่ข้าราชการพลเรือนมีสิทธิได้รับค่าตอบแทนพิเศษและเบี้ยเลี้ยงตามที่กระทรวงอนุญาต
  3. ห้กรรมการในคณะกรรมการทุกรายเว้นแต่เลขานุการดำรงตำแหน่งเท่ากับวาระตามตำแหน่งของตนในรัฐบาล สำหรับเลขานุการซึ่งเป็นข้าราชการ ให้ปฏิบัติตามกฎหมายว่าด้วยข้าราชการพลเรือน
  4. กรรมการในคณะกรรมการจะดำรงตำแหน่งเกินกว่าสองวาระติดกันไม่ได้
  5. ให้รัฐบาลจัดตั้งคณะกรรมการขึ้นใหม่ภายในสองเดือนนับจากวันที่จัดตั้งรัฐบาล
  6. ให้หัวหน้าสำนักงานคณะกรรมการดำรงตำแหน่งเลขานุการของคณะกรรมการ และปฏิบัติหน้าที่ตามที่คณะกรรมการกำหนด
  7. ประธานกรรมการอาจทำหนังสือมอบหมายให้เจ้าหน้าที่รายใดๆ ของสำนักงานคณะกรรมการปฏิบัติหน้าที่ใดๆ ของคณะกรรมการก็ได้ ในกรณีที่มีการมอบหมายหน้าที่ดังกล่าว ผู้ได้รับมอบหมายต้องปฏิบัติหน้าที่เท่าที่ระบุไว้ในหนังสือมอบหมายหน้าที่เท่านั้น ทั้งนี้ หนังสือดังกล่าวจะเพิกถอนเมื่อใดก็ได้โดยการทำหนังสือบอกกล่าว


หมวด 5
การลาออกจากตำแหน่ง การถูกปลดออกจากคณะกรรมการ และการแต่งตั้งสำหรับตำแหน่งที่ว่าง

  1. ประธานกรรมการอาจออกจากตำแหน่งในระหว่างวาระของตนโดยสมัครใจได้โดยการยื่นหนังสือลาออกต่อรัฐบาล โดยต้องได้รับความเห็นชอบของประธานาธิบดี
  2. กรรมการในคณะกรรมการ เว้นแต่ประธานกรรมการ ที่ประสงค์จะออกจากตำแหน่ง อาจร้องขอต่อประธานกรรมการและออกจากตำแหน่งได้เมื่อได้รับความเห็นชอบจากรัฐบาล
  3. รัฐบาลอาจปลดกรรมการในคณะกรรมการรายหนึ่งๆ ได้หากกรรมการรายนั้น

(เอ)

มีปัญหาสุขภาพถึงขนาดที่ไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ของตนได้อีกต่อไป ตามที่วินิจฉัยโดยคณะกรรมการการแพทย์ที่จัดตั้งขึ้นตามกฎหมาย

(บี)

ตาย

(ซี)

ได้รับโทษทางอาญาตามคำพิพากษาของศาล

(ดี)

เป็นบุคคลมีหนี้สินล้นพ้นตัวตามคำสั่งศาล

(อี)

ไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ของตนได้อย่างเหมาะสม

  1. ให้รัฐบาลดำเนินการดังต่อไปนี้

(เอ)

รัฐบาลต้องแต่งตั้งกรรมการรายใหม่ตามบทบัญญัติแห่งกฎหมายนี้และหลักเกณฑ์ที่ออกตามกฎหมายนี้หากมีตำแหน่งในคณะกรรมการว่างลงเนื่องจากกรรมการออกจากตำแหน่ง ถูกปลดออกจากตำแหน่ง ตาย หรือด้วยเหตุอื่นใด

(บี)

หากตำแหน่งประธานกรรมการว่างลง รัฐบาลอาจแต่งตั้งให้รองประธานกรรมการ หรือกรรมการในคณะกรรมการปฏิบัติหน้าที่เป็นประธานกรรมการได้ชั่วคราว ในระหว่างที่ยังไม่ได้แต่งตั้งประธานกรรมการรายใหม่

  1. กรรมการในคณะกรรมการต้องปฏิบัติหน้าที่ของตนจนกว่าจะมีการแต่งตั้งกรรมการรายใหม่ เว้นแต่ในกรณีที่พ้นจากตำแหน่งเนื่องจากลาออกหรือถูกปลดออกจากตำแหน่ง
  2. โดยไม่คำนึงถึงวาระตามที่กำหนดไว้ในข้อ 9 ให้ประธานกรรมการ รองประธานกรรมการ และกรรมการในคณะกรรมการที่ได้รับการแต่งตั้งเนื่องจากตำแหน่งว่างลงตามข้อ 17 อยู่ในตำแหน่งเท่ากับวาระที่เหลืออยู่ของประธานกรรมการ รองประธานกรรมการ หรือกรรมการในคณะกรรมการซึ่งแต่งตั้งไว้แล้วนั้น
  3. เลขานุการมีหน้าที่ปฏิบัติงานในแต่ละวันของคณะกรรมการ ตลอดจนหน้าที่ด้านการบริหารจัดการในเรื่องต่างๆ ของคณะกรรมการ
  4. หากกรรมการในคณะกรรมการมีส่วนได้เสียไม่ว่าในทางตรงหรือทางอ้อมในข้อเสนอที่ยื่นต่อคณะกรรมการ กรรมการรายนั้นต้องแถลงให้ทราบถึงส่วนได้เสียนั้นโดยชัดแจ้ง โดยให้บันทึกการแถลงดังกล่าวไว้ในรายงานการประชุมของคณะกรรมการ และในกรณีดังกล่าว กรรมการรายนั้นจะไม่มีสิทธิมีส่วนร่วมในการตัดสินใจ การทำกิจกรรม และการปรึกษาหารือของคณะกรรมการที่เกี่ยวกับข้อเสนอนั้น
  5. หากกรรมการในคณะกรรมการมีส่วนได้เสียไม่ว่าในทางตรงหรือทางอ้อมในคำขอรับคำสั่งให้ความเห็นชอบที่ยื่นต่อคณะกรรมการ กรรมการรายนั้นต้องแถลงให้ทราบถึงส่วนได้เสียนั้นโดยชัดแจ้ง โดยให้บันทึกการแถลงดังกล่าวไว้ที่สำนักงานคณะกรรมการ และในกรณีดังกล่าว กรรมการรายนั้นจะไม่มีสิทธิมีส่วนร่วมในกระบวนการใดๆ ของสำนักงานคณะกรรมการที่เกี่ยวกับคำขอรับคำสั่งให้ความเห็นชอบนั้น


หมวด 6
อำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการ

  1. คณะกรรมการมีสิทธิใช้อำนาจและปฏิบัติหน้าที่ของตนได้อย่างอิสระ เว้นแต่การนั้นจะขัดต่อบทบัญญัติของกฎหมายนี้
  2. คณะกรรมการมีหน้าที่ดังต่อไปนี้

(เอ)

ส่งเสริมการลงทุนของสหภาพเมียนมา

(บี)

ทำหน้าที่เป็นส่วนราชการหลักที่มีหน้าที่รับผิดชอบเกี่ยวกับการประสานงานกับผู้ลงทุนและผู้สนใจลงทุน

(ซี)

จัดสิ่งอำนวยความสะดวกด้านการลงทุนสำหรับผู้ลงทุนและการลงทุนของผู้ลงทุน

(ดี)

ให้คำแนะนำเกี่ยวกับนโยบายการลงทุนแก่กระทรวงของสหภาพเมียนมา และส่วนราชการของเขตและของรัฐ ในเรื่องการดำเนินการตามวัตถุประสงค์ด้านเศรษฐกิจ เพื่อพัฒนาธุรกิจที่อยู่ในความรับผิดชอบของตน

(อี)

ออกแนวทางการปฏิบัติตามนโยบายและคำสั่งแก่เจ้าหน้าที่ของสำนักงานคณะกรรมการ

(เอฟ)

รายงานกิจกรรมและการปฏิบัติหน้าที่ของคณะกรรมการให้ประธานาธิบดีและรัฐบาลทราบในทุกๆ สามเดือน

(จี)

รายงานเป็นประจำทุกปีเกี่ยวกับสถานะของการลงทุนที่ได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการแล้วว่าเสร็จสิ้นหรือดำเนินไปได้เพียงใด โดยเสนอรายงานนั้นต่อรัฐสภาผ่านทางรัฐบาล

(เอช)

โดยร่วมกับสภาแห่งเนปยีดอและส่วนราชการของเขตและของรัฐ มอบอำนาจในการดำเนินการลงทุนที่รัฐบาลอาจให้ความเห็นชอบโดยพิจารณาจากประเภทของการลงทุน หรือสภาพของทรัพยากรธรรมชาติ หรือการสร้างโอกาสทางอาชีพเพื่อการพัฒนาเศรษฐกิจของเขตและรัฐต่างๆ รวมถึงดินแดนสหภาพ

(ไอ)

ให้คำแนะนำแก่รัฐบาลเพื่ออำนวยความสะดวกหรือส่งเสริมการลงทุนทั้งจากในประเทศและต่างชาติ

(เจ)

ดำเนินการต่อผู้ลงทุนตามกฎหมาย วิธีการ และระเบียบข้อบังคับที่เกี่ยวข้องหากปรากฏว่าเมื่อผู้ลงทุนพบทรัพยากรธรรมชาติหรือโบราณวัตถุ ผู้ลงทุนได้เข้าครอบครอง เปลี่ยนแปลง หรือปกปิดสิ่งดังกล่าวไว้โดยไม่แจ้งให้ทราบ

(เค)

ตรวจสอบว่าผู้ลงทุนและการลงทุนของผู้ลงทุนเป็นไปตามกฎหมายนี้ ตลอดจนหลักเกณฑ์ ระเบียบ ประกาศ คำสั่ง ข้อบังคับ วิธีการ และข้อสัญญาหรือไม่ และดำเนินการให้แน่ใจว่าหากผู้ลงทุนไม่ปฏิบัติตาม จะดำเนินการให้ผู้ลงทุนปฏิบัติตาม และดำเนินการตามกฎหมายต่อผู้ลงทุนและการลงทุนของผู้ลงทุนที่ไม่เป็นไปตามกฎระเบียบดังกล่าว

(แอล)

ตรวจสอบกรณีที่มีการยกเว้นและการลดหย่อน และการลงทุนที่ถูกจำกัด และรายงานการตรวจสอบดังกล่าวต่อรัฐบาล

(เอ็ม)

ปฏิบัติหน้าที่อื่นตามที่รัฐบาลมอบหมายเป็นครั้งคราว

  1. เพื่อวัตถุประสงค์ในการปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมายนี้ ให้คณะกรรมการมีอำนาจดังต่อไปนี้

(เอ)

ออกประกาศโดยความเห็นชอบจากรัฐบาลหลังจากที่ได้กำหนดอุตสาหกรรมที่จะส่งเสริมการลงทุนและประเภทการลงทุนที่ถูกจำกัดหรือต้องห้าม

(บี)

โดยความเห็นชอบของรัฐบาล กำหนดประเภทการลงทุนที่สอดคล้องตามยุทธศาสตร์ของสหภาพเมียนมา โครงการลงทุนที่ต้องใช้เงินลงทุนจำนวนมาก และโครงการที่อาจส่งผลกระทบอย่างมากต่อสิ่งแวดล้อมและชุมชนท้องถิ่น

(ซี)

ออกใบอนุญาตให้แก่ผู้ลงทุนที่ยื่นคำขอต่อคณะกรรมการหากคำขอนั้นเป็นประโยชน์ต่อสหภาพเมียนมาและเป็นไปตามกฎหมาย และปฏิเสธคำขอหากคำขอนั้นไม่เป็นไปตามเงื่อนไขดังกล่าว

(ดี)

ดำเนินการตรวจสอบที่จำเป็นเมื่อมีการยื่นคำขอรับคำสั่งให้ความเห็นชอบต่อคณะกรรมการและออกคำสั่งให้ความเห็นชอบให้แก่ผู้ลงทุนหากคำขอนั้นไม่ขัดต่อกฎหมาย

(อี)

ภายหลังจากการตรวจสอบ ให้ความเห็นชอบหรือปฏิเสธคำขอขยายหรือแก้ไขระยะเวลาของใบอนุญาตหรือคำสั่งให้ความเห็นชอบที่ยื่นโดยผู้ลงทุน

(เอฟ)

ขอให้ผู้ลงทุนยื่นเอกสารหรือหลักฐานเกี่ยวกับการลงทุน หากจำเป็น

(จี)

ดำเนินการต่อผู้ลงทุนตามกฎหมายที่มีอยู่หากปรากฏหลักฐานที่เชื่อถือได้ว่าผู้ลงทุนได้ยื่นเอกสารประกอบคำขอหรือคำสั่งให้ความเห็นชอบที่ไม่เหมาะสมต่อคณะกรรมการ หรือในกรณีที่ผู้ลงทุนไม่ปฏิบัติตามข้อกำหนดหรือเงื่อนไขของใบอนุญาตหรือคำสั่งให้ความเห็นชอบ

(เอช)

ตรวจสอบตามที่จำเป็นและอนุญาตให้มีการยกเว้นและการลดหย่อนตามบทบัญญัติแห่งกฎหมายนี้หากเหมาะสม

(ไอ)

โดยความเห็นชอบของรัฐบาล กำหนดประเภทของการลงทุนที่จะไม่ได้รับอนุญาตให้ได้รับการยกเว้นและ/หรือการลดหย่อนภาษี

(เจ)

ขอรับความช่วยเหลือและข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับหน้าที่ของคณะกรรมการจากกระทรวง หน่วยงานของรัฐ และหน่วยงานอื่นตามความจำเป็น รวมถึงผู้ลงทุน เพื่อปฏิบัติหน้าที่ของคณะกรรมการตามกฎหมายนี้

(เค)

ดำเนินการตามที่จำเป็นเพื่อให้สามารถปฏิบัติตามบทบัญญัติแห่งกฎหมายนี้ได้

(แอล)

ตรวจสอบและกำหนดระยะเวลาที่เหมาะสมสำหรับการก่อสร้างหรือเตรียมการตามประเภทของการลงทุน

(เอ็ม)

ตรวจสอบและอนุญาตให้มีการยกเว้นและการลดหย่อนที่เกี่ยวกับการนำเข้าเครื่องจักรและอุปกรณ์เป็นการชั่วคราวจากต่างประเทศตามวิธีการนำเข้าชั่วคราวที่กำหนดโดยกรมศุลกากรร่วมกับกระทรวงที่เกี่ยวข้อง และ

(เอ็น)

เพื่อให้กฎหมายนี้ใช้บังคับได้อย่างมีประสิทธิภาพ จัดตั้งและใช้การระบบสำหรับการดำเนินการในเรื่องต่างๆ เช่น ตรวจสอบข้อพิพาทอย่างเป็นระบบ ระบุสาเหตุของข้อพิพาท ดำเนินการตอบ สอบสวน และไกล่เกลี่ยก่อนการระงับข้อพิพาทเพื่อให้กฎหมายนี้ใช้บังคับได้อย่างมีประสิทธิภาพ จัดตั้งและใช้การระบบสำหรับการดำเนินการในเรื่องต่างๆ เช่น ตรวจสอบข้อพิพาทอย่างเป็นระบบ ระบุสาเหตุของข้อพิพาท ดำเนินการตอบ สอบสวน และไกล่เกลี่ยก่อนการระงับข้อพิพาท

  1. คณะกรรมการอาจกำหนดและเก็บค่าธรรมเนียมอื่นๆ ได้ รวมถึงค่าจดทะเบียน
  2. ในการปฏิบัติหน้าที่ของตน คณะกรรมการอาจจัดตั้งอนุคณะกรรมการและหน่วยงานต่างๆ ได้ตามที่จำเป็น
  3. ในการปฏิบัติหน้าที่ของตน คณะกรรมการอาจเปิดสำนักงานสาขาโดยความเห็นชอบของรัฐบาลได้ตามที่จำเป็น ไม่ว่าตั้งอยู่ภายในประเทศหรือต่างประเทศ


หมวด 7
การเรียกประชุม

  1. ให้มีการประชุมคณะกรรมการดังต่อไปนี้

(เอ)

ให้มีการประชุมสามัญคณะกรรมการอย่างน้อยเดือนละหนึ่งครั้ง

(บี)

ให้มีการประชุมวิสามัญคณะกรรมการเมื่อจำเป็น

  1. ให้ประธานกรรมการเป็นประธานในที่ประชุม ในกรณีที่ประธานกรรมการไม่อยู่ในที่ประชุม ให้รองประธานกรรมการเป็นประธานในที่ประชุม
  2. การประชุมคณะกรรมการต้องมีกรรมการมาประชุมเกินกึ่งหนึ่งของจำนวนกรรมการทั้งหมด รวมถึงประธานกรรมการหรือรองประธานกรรมการด้วย จึงเป็นองค์ประชุม
  3. การวินิจฉัยของคณะกรรมการต้องได้รับความเห็นชอบจากกรรมการมากกว่ากึ่งหนึ่งของกรรมการทั้งหมดที่อยู่ในที่ประชุม กรรมการที่ไม่ได้อยู่ในที่ประชุมจะไม่มีสิทธิคัดค้าน ปฏิเสธ หรือแก้ไขการวินิจฉัยของคณะกรรมการ
  4. คณะกรรมการอาจเชิญผู้เชี่ยวชาญจากกระทรวงหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้เข้าร่วมในที่ประชุมคณะกรรมการครั้งใดๆ สำหรับเรื่องที่จำเป็นต้องใช้ความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านก็ได้
  5. คณะกรรมการอาจเชิญผู้ลงทุนและบุคคลที่สนับสนุนผู้ลงทุนให้เข้าร่วมในที่ประชุมและให้คำอธิบายและร่วมปรึกษาหารือในที่ประชุมของคณะกรรมการก็ได้
  6. กรรมการต้องยื่นรายงานและแถลงต่อที่ประชุมเกี่ยวกับกิจกรรมของตนในที่ประชุมสามัญคณะกรรมการที่จะมีขึ้นครั้งที่ใกล้ที่สุด และต้องได้รับความเห็นชอบสำหรับกิจกรรมนั้น


หมวด 8
การยื่นคำขอ

  1. ผู้ลงทุนต้องยื่นคำขอต่อคณะกรรมการและลงทุนภายหลังจากได้รับใบอนุญาตสำหรับการลงทุนที่ระบุไว้ตามหลักเกณฑ์ดังต่อไปนี้

(เอ)

การลงทุนที่จำเป็นสำหรับการดำเนินการตามยุทธศาสตร์ของชาติ

(บี)

โครงการการลงทุนที่ต้องใช้เงินลงทุนจำนวนมาก

(ซี)

โครงการที่อาจมีผลกระทบอย่างมากต่อสิ่งแวดล้อมและชุมชนท้องถิ่น

(ดี)

การลงทุนที่ใช้ที่ดินและอาคารของรัฐ

(อี)

การลงทุนอื่นๆ ที่รัฐบาลกำหนดให้ต้องยื่นคำขอต่อคณะกรรมการ


หมวด 9
การยื่นคำขอรับคำสั่งให้ความเห็นชอบ

  1. ผู้ลงทุนไม่ต้องยื่นคำขอต่อคณะกรรมการสำหรับการลงทุนใดๆ เว้นแต่การลงทุนตามที่กำหนดไว้ในข้อ 36 อย่างไรก็ดี เพื่อให้ผู้ลงทุนมีสิทธิใช้ที่ดินตามหมวด 12 และได้รับการยกเว้นและการลดหย่อนอย่างใดอย่างหนึ่งหรือกว่านั้น หรือทั้งหมด ตามข้อ 75 ข้อ 77 และข้อ 78 ผู้ยื่นคำขอต้องยื่นคำขอรับคำสั่งให้ความเห็นชอบตามแบบที่กำหนดโดยสำนักงานคณะกรรมการ
  2. ในการยื่นคำขอรับคำสั่งให้ความเห็นชอบ ให้แนบหนังสือให้ความเห็นชอบ หนังสืออนุญาต ใบอนุญาต หรือเอกสารอื่นในทำนองเดียวกันที่หน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้องได้ออกให้สำหรับประเภทธุรกิจเดียวกับที่ยื่นคำขอมาพร้อมกันด้วย
  3. หลังจากที่ได้พิจารณาคำขอรับคำสั่งให้ความเห็นชอบที่ยื่นตามข้อ 37 แล้ว คณะกรรมการอาจรับคำขอนั้นหากเป็นการยื่นที่ถูกต้องครบถ้วน และอนุญาตให้แก้ไขคำขอนั้นแล้วยื่นใหม่หากเป็นการยื่นที่ไม่ถูกต้องครบถ้วน


หมวด 10
ประเภทการลงทุน

  1. การลงทุนให้รวมถึงสิ่งต่อไปนี้ด้วย

(เอ)

วิสาหกิจ

(บี)

สังหาริมทรัพย์ อสังหาริมทรัพย์ และสิทธิอันเกี่ยวกับทรัพย์สิน เงินสด จำนำ จำนองและสิทธิยึดหน่วง เครื่องจักร อุปกรณ์ อะไหล่ และเครื่องมือที่เกี่ยวข้อง

(ซี)

หุ้นบริษัท หุ้นในตลาดหลักทรัพย์ และหุ้นกู้ (เอ) ตั๋วสัญญาใช้เงินของบริษัทหนึ่งๆ

(ดี)

สิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาตามกฎหมาย รวมถึงความรู้ความชำนาญ สิทธิบัตร การออกแบบอุตสาหกรรม และเครื่องหมายการค้า

(อี)

สิทธิเรียกร้องเงินและการปฏิบัติตามสัญญาซึ่งมีมูลค่าเป็นตัวเงิน

(เอฟ)

สัญญาแบ่งรายได้ หรือสิทธิในการผลิต การจัดการ การสร้าง การจ้างเหมาเบ็ดเสร็จ ที่มีตามสัญญา

(จี)

สิทธิที่โอนให้แก่กันได้ที่มีอยู่ตามกฎหมายหรือตามสัญญา รวมถึงสิทธิในการค้นหา สำรวจ และสกัดทรัพยากรธรรมชาติ

  1. การลงทุนที่มีลักษณะดังต่อไปนี้เป็นการลงทุนที่ต้องห้าม

(เอ)

การลงทุนที่อาจก่อให้เกิดหรือทำให้มีขยะอันตรายหรือเป็นพิษในสหภาพเมียนมา

(บี)

การลงทุนที่อาจทำให้มีการนำเทคโนโลยี ยา พืช สัตว์ และอุปกรณ์ที่ยังอยู่ในระหว่างการทดลองในต่างประเทศ หรือที่ยังไม่ได้รับอนุญาตให้ใช้ ปลูกหรือเพาะปลูก เว้นแต่การลงทุนที่มีวัตถุประสงค์เพื่อการวิจัยและพัฒนา

(ซี)

การลงทุนที่อาจมีผลต่อวัฒนธรรมพื้นถิ่นและธรรมเนียมประเพณีของกลุ่มชาติพันธุ์ในสหภาพเมียนมา

(ดี)

การลงทุนที่อาจมีผลกระทบต่อสาธารณชน

(อี)

การลงทุนที่อาจก่อให้เกิดผลกระทบอย่างร้ายแรงต่อสิ่งแวดล้อมตามธรรมชาติและระบบนิเวศน์

(เอฟ)

การลงทุนที่เกี่ยวกับการผลิตสินค้าหรือให้บริการที่เป็นการต้องห้ามตามกฎหมายที่ใช้บังคับ

  1. การลงทุนที่มีลักษณะดังต่อไปนี้เป็นการลงทุนที่ถูกจำกัด

(เอ)

การลงทุนที่ได้รับอนุญาตให้กระทำเฉพาะนอกสหภาพเมียนมาเท่านั้น

(บี)

การลงทุนที่ไม่ได้รับอนุญาตให้กระทำโดยผู้ลงทุนต่างชาติ

(ซี)

การลงทุนที่อนุญาตให้กระทำในรูปกิจการร่วมค้ากับนิติบุคคลที่พลเมืองเป็นเจ้าของหรือพลเมืองเมียนมารายใดๆ และ

(ดี)

การลงทุนที่กระทำได้ต่อเมื่อได้รับความเห็นชอบจากกระทรวงที่เกี่ยวข้อง

  1. คณะกรรมการต้องออกประกาศโดยความเห็นชอบของรัฐบาลเพื่อแจ้งให้สาธารณชนทราบถึงประเภทการลงทุนที่ได้รับการส่งเสริมและประเภทการลงทุนที่ถูกจำกัดตามข้อ 42
  2. เมื่อได้พิจารณาทบทวนการเปิดเสรีหรือเปลี่ยนแปลงประเภทการลงทุนที่ถูกจำกัดไว้ตามข้อ 42 เป็นระยะๆ หากจำเป็นต้องมีการผ่อนปรน แก้ไขเพิ่มเติม หรือยกเลิกการลงทุนประเภทใดดังกล่าว คณะกรรมการต้องได้รับความเห็นชอบจากรัฐบาลและประกาศให้ทราบถึงการแก้ไขเพิ่มเติมและการกำหนดประเภทการลงทุนดังกล่าว
  3. ในการพิจารณาทบทวนประเภทการลงทุนตามข้อ 44 คณะกรรมการอาจปรึกษาหารือกับบุคลากรที่เกี่ยวข้องจากภาคเอกชน กระทรวง และหน่วยงานของรัฐ เพื่อให้การจัดประเภทการลงทุนไม่ขัดต่อพันธกรณีของรัฐบาลในด้านการค้าระหว่างประเทศและการลงทุน
  4. สำหรับการลงทุนที่อาจมีผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อความปลอดภัย สภาพเศรษฐกิจ สิ่งแวดล้อม และประโยชน์ของสหภาพเมียนมาและพลเมือง คณะกรรมการต้องขอและได้รับความเห็นชอบจากรัฐสภาผ่านทางรัฐบาลก่อนออกใบอนุญาตสำหรับการลงทุนนั้นๆ


หมวด 11
การปฏิบัติต่อผู้ลงทุน

  1. ในการปฏิบัติต่อผู้ลงทุน ให้ดำเนินการดังต่อไปนี้

(เอ)

รัฐบาลต้องปฏิบัติต่อผู้ลงทุนต่างชาติและการลงทุนโดยตรงของผู้ลงทุนต่างชาติโดยเอื้อประโยชน์ไม่น้อยไปกว่าการปฏิบัติต่อผู้ลงทุนที่เป็นพลเมืองเมียนมาในเรื่องเกี่ยวกับการขยาย การจัดการ การดำเนินการ และการขายหรือการจำหน่ายโดยประการอื่นซึ่งการลงทุนโดยตรงตามกฎหมายนี้ เว้นแต่กฎหมาย หลักเกณฑ์ และประกาศอื่นใดจะกำหนดไว้เป็นอย่างอื่น

(บี)

ในพฤติการณ์คล้ายกัน รัฐบาลต้องปฏิบัติต่อผู้ลงทุนต่างชาติและการลงทุนโดยตรงของผู้ลงทุนต่างชาติจากประเทศหนึ่งๆ โดยเอื้อประโยชน์ไม่น้อยไปกว่าการปฏิบัติต่อผู้ลงทุนต่างชาติและการลงทุนโดยตรงของผู้ลงทุนต่างชาติจากประเทศอื่นในเรื่องเกี่ยวกับการจัดตั้ง การได้มา การขยาย การจัดการ การดำเนินการ และการขายหรือจำหน่ายโดยประการอื่นซึ่งการลงทุนโดยตรง

(ซี)

บทบัญญัติในข้อ (บี) ข้างต้นไม่สามารถตีความได้ว่าเป็นการกำหนดให้ต้องมีการปฏิบัติ การเอื้อประโยชน์ หรือการให้สิทธิพิเศษซึ่งเป็นผลมาจากเรื่องดังต่อไปนี้แก่ผู้ลงทุนต่างชาติ

(i)

สหภาพศุลกากร เขตการค้าเสรี สหภาพเศรษฐกิจที่เป็นผลมาจากสหภาพศุลกากร เขตการค้าเสรี และสหภาพเศรษฐกิจ และข้อตกลงระหว่างประเทศ

(ii)

การปฏิบัติอันเป็นการเอื้อประโยชน์เป็นพิเศษสำหรับผู้ลงทุนและการลงทุนของผู้ลงทุนตามข้อตกลงระหว่างประเทศ สนธิสัญญา ข้อตกลง หรือความร่วมมือระดับทวิภาคีหรือระดับภูมิภาคหรือสากลระหว่างประเทศต่างๆ ในภูมิภาค สนธิสัญญา ข้อตกลง หรือความร่วมมือกับประเทศอื่นๆ หรือความร่วมมือที่เกี่ยวข้องกับภาษี ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน

  1. รัฐบาลรับรองว่าจะปฏิบัติต่อผู้ลงทุนอย่างเป็นธรรมและเท่าเทียมกันในเรื่องดังต่อไปนี้

(เอ)

สิทธิในการได้ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับมาตรการใดๆ หรือการตัดสินซึ่งมีผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อผู้ลงทุนและการลงทุนโดยตรงของผู้ลงทุน

(บี)

สิทธิในการเข้าถึงกระบวนการยุติธรรมที่ถูกต้องและสิทธิในการอุทธรณ์ตามมาตรการเดียวกัน รวมถึงการเปลี่ยนข้อกำหนดและเงื่อนไขตามหนังสืออนุญาต ใบอนุญาต หรือคำสั่งให้ความเห็นชอบที่ออกให้โดยรัฐบาลแก่ผู้ลงทุนและการลงทุนโดยตรงของผู้ลงทุน

  1. บทบัญญัติในหมวดนี้ไม่กระทบต่อบทบัญญัติในข้อ 76


หมวด 12
สิทธิในการใช้ที่ดิน

50.

(เอ)

ผู้ลงทุนที่ได้รับใบอนุญาตหรือคำสั่งให้ความเห็นชอบตามกฎหมายนี้มีสิทธิเช่าระยะยาวซึ่งที่ดินหรืออาคารจากเอกชนหรือจากกรมหรือหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้องซึ่งรัฐบาลเป็นผู้จัดการหรือเป็นของรัฐตามกฎหมาย เพื่อใช้ในการลงทุน ผู้ลงทุนที่เป็นพลเมืองเมียนมาอาจลงทุนในที่ดินหรืออาคารของตนเองตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องก็ได้

(บี)

ผู้ลงทุนต่างชาติอาจเช่าที่ดินหรืออาคารจากรัฐบาลหรือหน่วยงานของรัฐ หรือจากเจ้าของที่ดินหรืออาคารของเอกชน เริ่มตั้งแต่วันที่ได้รับใบอนุญาตหรือคำสั่งให้ความเห็นชอบจากคณะกรรมการ ระยะแรกเป็นระยะเวลาสูงสุด 50 ปี ตามที่กฎหมายกำหนดก็ได้

(ซี)

เมื่อระยะเวลาของสิทธิการใช้ที่ดินหรืออาคาร หรือระยะเวลาของสิทธิในการเช่าที่ดินหรืออาคารตามที่บัญญัติไว้ในข้อ (บี) สิ้นสุดลง คณะกรรมการอาจให้ความเห็นชอบแก่ผู้ลงทุนให้ได้รับสิทธิเช่าที่ดินหรืออาคารดังกล่าวอีก 10 ปี และขยายระยะเวลาต่อไปอีก 10 ปีก็ได้

(ดี)

ผู้ลงทุนต้องจดทะเบียนการเช่าที่ดินต่อหน่วยงานที่รับจดทะเบียนเอกสารสำคัญต่างๆ ตามกฎหมายว่าด้วยการจดทะเบียน

(อี)

รัฐบาลอาจกำหนดข้อกำหนดและเงื่อนไขในการเช่าและการใช้ที่ดินที่เอื้อประโยชน์เป็นพิเศษสำหรับผู้ลงทุนที่เป็นพลเมืองเมียนมาก็ได้

(เอฟ)

เพื่อวัตถุประสงค์ในการพัฒนาสหภาพเมียนมาโดยรวม โดยความเห็นชอบของรัฐสภา ตามที่เสนอผ่านทางรัฐบาล คณะกรรมการต้องให้สิทธิการเช่าที่ดินหรืออาคารและสิทธิในการใช้ที่ดินตามกฎหมายนี้เป็นระยะเวลานานกว่าที่กำหนดสำหรับผู้ลงทุนที่ลงทุนในเขตที่พัฒนาน้อยที่สุดและอยู่ห่างไกลความเจริญ


หมวด 13
การจ้างพนักงานและคนงาน

  1. ผู้ลงทุนต้องดำเนินการดังต่อไปนี้

(เอ)

ผู้ลงทุนที่ได้รับใบอนุญาตหรือคำสั่งให้ความเห็นชอบตามกฎหมายนี้มีสิทธิเช่าระยะยาวซึ่งที่ดินหรืออาคารจากเอกชนหรือจากกรมหรือหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้องซึ่งรัฐบาลเป็นผู้จัดการหรือเป็นของรัฐตามกฎหมาย เพื่อใช้ในการลงทุน ผู้ลงทุนที่เป็นพลเมืองเมียนมาอาจลงทุนในที่ดินหรืออาคารของตนเองตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องก็ได้

(บี)

ผู้ลงทุนต้องแต่งตั้งพลเมืองที่ผ่านการพัฒนาความสามารถแล้วเพื่อดำรงตำแหน่งแทนในตำแหน่งที่เกี่ยวกับการจัดการ ผู้เชี่ยวชาญด้านเทคนิคและการปฏิบัติการ และที่ปรึกษา

(ซี)

สำหรับงานที่ไม่ต้องการความชำนาญ ผู้ลงทุนต้องแต่งตั้งให้พลเมืองเท่านั้นรับผิดชอบงานดังกล่าว

(ดี)

ผู้ลงทุนต้องแต่งตั้งพลเมืองที่มีความชำนาญ และคนงาน ช่างเทคนิค และพนักงานชาวต่างชาติ โดยทำสัญญาจ้างระหว่างนายจ้างกับลูกจ้างตามกฎหมายและระเบียบข้อบังคับด้านแรงงาน

(อี)

ผู้ลงทุนต้องดำเนินการให้แน่ใจว่าในการกำหนดสิทธิและหน้าที่ของนายจ้างและลูกจ้าง ตลอดจนข้อกำหนดและเงื่อนไขในสัญญาจ้าง ลูกจ้างจะได้รับสิทธิหรือมีสิทธิตามกฎหมายและระเบียบข้อบังคับด้านแรงงาน รวมถึงค่าจ้างและเงินเดือนขั้นต่ำ การลางาน วันหยุด ค่าทำงานล่วงเวลา ค่าเสียหาย ค่าชดเชยสำหรับลูกจ้าง ประกันสังคม และประกันอื่นๆ สำหรับลูกจ้าง

(เอฟ)

ผู้ลงทุนต้องระงับข้อพิพาทที่เกิดขึ้นระหว่างนายจ้าง ระหว่างลูกจ้าง ระหว่างนายจ้างกับลูกจ้าง ช่างเทคนิค หรือพนักงาน ที่เกี่ยวกับการลงทุนตามกฎหมายที่ใช้บังคับ


หมวด 14
การรับประกันเกี่ยวกับการลงทุน

  1. รัฐบาลรับรองว่าจะไม่เข้าควบคุมการลงทุนใดๆ ที่จัดทำตามกฎหมายนี้ เว้นแต่ในกรณีที่เป็นไปตามเงื่อนไขดังต่อไปนี้ รัฐบาลรับรองว่าจะไม่ดำเนินมาตรการใดๆ ซึ่งเป็นการเวนคืนการลงทุนไม่ว่าโดยทางตรงหรือทางอ้อม หรืออาจส่งผลให้การลงทุนนั้นสิ้นสุดลง

(เอ)

เป็นการจำเป็นเพื่อประโยชน์ของสาธารณชน

(บี)

เป็นไปในลักษณะที่ไม่เป็นการเลือกปฏิบัติ

(ซี)

เป็นไปตามกระบวนการยุติธรรมที่ถูกต้องเหมาะสม

(ดี)

มีการจ่ายค่าตอบแทนทันที อย่างยุติธรรมและเพียงพอ

  1. ค่าชดเชยที่ยุติธรรมและเพียงพอต้องกำหนดเป็นจำนวนที่เทียบเท่ากับมูลค่าตลาดในขณะที่เวนคืนการลงทุน อย่างไรก็ดี การกำหนดค่าชดเชยนั้นต้องคำนึงถึงประโยชน์ของสาธารณชนและประโยชน์ของผู้ลงทุนเอกชน ตลอดจนสภาพการลงทุนในปัจจุบันและที่ผ่านมา เหตุในการเวนคืนการลงทุนหรือทรัพย์สินของการลงทุน มูลค่าตลาดที่เป็นธรรมของการลงทุนนั้น วัตถุประสงค์ของการเวนคืนการลงทุนหรือทรัพย์สินของการลงทุน กำไรที่ผู้ลงทุนได้รับตลอดการลงทุน และระยะเวลาของการลงทุน
  2. ในการใช้อำนาจของรัฐบาลเพื่อวัตถุประสงค์ในการดูแลประโยชน์ด้านเศรษฐกิจหรือส่งเสริมประโยชน์ด้านสังคมซึ่งกฎหมาย รวมถึงในหมวด 21 และ 22 ของกฎหมายนี้ กำหนดให้ต้องเป็นไปในลักษณะที่ไม่เป็นการเลือกปฏิบัตินั้นไม่ใช้บังคับกับบทบัญญัติในหมวดนี้
  3. หากผู้ลงทุนกล่าวอ้างว่ามาตรการอย่างใดอย่างหนึ่งหรือหลายอย่างที่จัดทำตามข้อ 52 ของกฎหมายนี้ขัดกับบทบัญญัติในข้อดังกล่าวและถือเป็นการเวนคืนโดยทางอ้อม รัฐบาลต้องทำการสอบสวนเป็นรายกรณีไปเพื่อหาข้อเท็จจริง โดยต้องพิจารณาปัจจัยต่างๆ ดังนี้

(เอ)

มาตรการนั้นเป็นการจงใจก่อให้เกิดผลเสียต่อมูลค่าทางเศรษฐกิจของการลงทุนหนึ่งๆ หรือไม่

(บี)

มาตรการนั้นฝ่าฝืนพันธกรณีของรัฐบาลที่จัดทำไว้เป็นลายลักษณ์อักษร สัญญา หนังสืออนุญาต หรือเอกสารกฎหมายอื่นๆ ที่ออกให้เพื่อประโยชน์ของผู้ลงทุนรายนั้นหรือไม่

(ซี)

มาตรการของรัฐบาล รวมถึงวัตถุประสงค์ตามข้อ 52 (เอ) สอดคล้องกับประโยชน์ของสาธารณชนหรือไม่

  1. ผู้ลงทุนต่างชาติอาจโอนเงินดังต่อไปนี้ซึ่งเกี่ยวกับการลงทุนที่จัดทำตามกฎหมายนี้ออกไปยังต่างประเทศได้

(เอ)

เงินทุนตามบทบัญญัติเกี่ยวกับบัญชีทุนตามที่ธนาคารกลางแห่งเมียนมากำหนด

(บี)

เงินที่ได้มา กำไรที่ได้จากจากสินทรัพย์ หุ้นกู้ ค่าสิทธิ ค่าสิทธิบัตร ค่าธรรมเนียมสำหรับการอนุญาต ค่าธรรมเนียมสำหรับการให้ความช่วยเหลือทางเทคนิคและการจัดการ หุ้น และรายได้อื่นที่มีในปัจจุบันซึ่งมีขึ้นจากการลงทุนใดๆ ตามกฎหมายนี้่

(ซี)

เงินที่ได้มาจากการขายหรือการชำระบัญชีชองการลงทุน/ทรัพย์สินจากการลงทุน ในบางส่วนหรือทั้งหมด

(ดี)

เงินที่ชำระตามสัญญา รวมถึงสัญญากู้

(อี)

เงินที่ชำระเพื่อระงับข้อพิพาทเกี่ยวกับการลงทุน

(เอฟ)

ค่าชดเชยหรือเงินค่าชดเชยอื่นๆ จากการลงทุนหรือการเวนคืน

(จี)

ค่าตอบแทน เงินเดือน และเงินของผู้เชี่ยวชาญชาวต่างชาติที่ได้รับการจ้างตามกฎหมายภายในสหภาพเมียนมา


หมวด 15
การโอนเงิน

  1. การโอนเงินกู้หรือรับเงินกู้ต้องได้รับความเห็นชอบจากธนาคารกลางแห่งเมียนมา ตามที่กำหนดไว้ในระเบียบข้อบังคับ
  2. ผู้ลงทุนที่เป็นพลเมืองเมียนมาอาจโอนเงินต่อไปนี้ที่เกี่ยวข้องกับการลงทุนตามกฎหมายนี้ไปยังต่างประเทศได้โดยอิสระและโดยไม่ชักช้า

(เอ)

ค่าสิทธิ ค่าธรรมเนียมสำหรับการอนุญาต ค่าธรรมเนียมสำหรับการให้ความช่วยเหลือทางเทคนิค ค่าธรรมเนียมสำหรับการจัดการ และดอกเบี้ยที่จ่ายให้แก่หน่วยงานภายนอก

(บี)

เงินที่ชำระตามสัญญา รวมถึงสัญญากู้และการเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนตามสัญญาประกัน

(ซี)

เงินที่กำหนดให้ต้องชำระโดยศาล อนุญาโตตุลาการ หรือจากการประนีประนอมยอมความเมื่อเกิดข้อพิพาท รวมถึงข้อตกลงว่าจะชำระโดยผู้ลงทุนที่เป็นพลเมืองเมียนมา

  1. การโอนเงินใดๆ จะกระทำได้ต่อเมื่อได้ชำระภาษีที่ต้องชำระตามกฎหมายภาษีสำหรับเงินจำนวนที่จะโอนนั้นแล้ว
  2. ผู้เชี่ยวชาญชาวต่างชาติที่มีใบอนุญาตทำงานตามกฎหมายอาจส่งเงินกลับไปต่างประเทศโดยไม่ต้องหักเงินใดๆ ออกจากเงินจำนวนที่ได้ชำระภาษีที่ต้องชำระตามกฎหมายว่าด้วยภาษีเงินได้อีก โดยส่งผ่านทางธนาคารที่มีใบอนุญาตประกอบกิจการเป็นผู้ให้บริการแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศและจัดตั้งขึ้นในสหภาพเมียนมา
  3. ในการโอนเงินโดยผู้ลงทุนต่างชาติตามข้อ 56 เงินนั้น รวมถึงบัญชีทุนหรือบัญชีเงินฝากกระแสรายวันตามกฎหมายว่าด้วยการจัดการการแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ อาจโอนผ่านธนาคารที่มีใบอนุญาตประกอบกิจการเป็นผู้ให้บริการแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศและจัดตั้งขึ้นโดยชอบด้วยกฎหมายในสหภาพเมียนมาโดยใช้สกุลเงินที่ใช้ได้โดยเสรี
  4. รัฐบาลอาจขัดขวางการโอนเงินหรือทำให้การโอนเงินล่าช้าออกไปได้ในกรณีอย่างใดอย่างหนึ่งดังต่อไปนี้

(เอ)

การมีหนี้สินล้นพ้นตัว หรือการให้ความคุ้มครองสิทธิของเจ้าหนี้

(บี)

การกระทำที่เกี่ยวกับอาชญากรรมหรือเป็นความผิดอาญา และการยึดคืนทรัพย์สินที่ได้มาจากการกระทำความผิด

(ซี)

การรายงานทางการเงินหรือการจัดเก็บข้อมูลการโอนเมื่อมีความจำเป็นต้องกระทำเพื่อให้ความช่วยเหลือในการบังคับคดีหรือแก่หน่วยงานกำกับดูแลด้านการเงิน

(ดี)

การดำเนินการให้แน่ใจว่ามีการปฏิบัติตามคำสั่งหรือคำพิพากษาของศาลหรือหน่วยงานทางปกครอง

(อี)

การจัดเก็บภาษีอากร

(เอฟ)

การประกันสังคม การเกษียณราชการ หรือการออมทรัพย์แบบบังคับ

(จี)

สิทธิของลูกจ้างในการได้รับค่าชดเชยเมื่อถูกเลิกจ้าง

  1. รัฐบาลต้องอนุญาตให้มีการโอนเงินทุนหรือค่าใช้จ่ายและเงินกู้จากต่างประเทศที่ผู้ลงทุนจำเป็นต้องใช้ในการลงทุนในสหภาพเมียนมาตามกฎหมายที่ใช้บังคับ
  2. ในกรณีที่มีปัญหาในเรื่องดุลการชำระเงินหรือปัญหาด้านเงินกู้อย่างรุนแรง รัฐบาลอาจประกาศใช้หรือกำหนดข้อจำกัดด้านการชำระเงินหรือการโอนเงินที่เกี่ยวกับการลงทุนตามกฎหมายว่าด้วยการจัดการการแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศและพันธกรณีระหว่างประเทศอื่นๆ


หมวด 16
หน้าที่ของผู้ลงทุน

  1. ผู้ลงทุนต้องดำเนินการต่อไปนี้

(เอ)

เคารพและปฏิบัติตามธรรมเนียมประเพณีและวัฒนธรรมพื้นถิ่นของกลุ่มชาติพันธุ์ในสหภาพเมียนมา

(บี)

จัดตั้งและจดทะเบียนบริษัท กิจการเจ้าของรายเดียว นิติบุคคล หรือสาขาของนิติบุคคลดังกล่าวขึ้นตามกฎหมายเพื่อดำเนินการลงทุน

(ซี)

ปฏิบัติตามข้อกำหนดและเงื่อนไข ระเบียบข้อบังคับตามหนังสืออนุญาตพิเศษ ใบอนุญาต และหนังสือรับรองการประกอบธุรกิจที่ออกให้แก่ผู้ลงทุน รวมถึงหลักเกณฑ์ ประกาศ คำสั่ง และข้อบังคับ และวิธีการตามกฎหมายนี้และกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนข้อกำหนดและเงื่อนไขตามสัญญา และหน้าที่ในการชำระภาษี

(ดี)

ดำเนินการตามระเบียบข้อบังคับของกรมที่เกี่ยวข้อง หากจำเป็นต้องกระทำโดยลักษณะของธุรกิจหรือด้วยความจำเป็นโดยประการอื่น เพื่อให้ได้มาซึ่งหนังสืออนุญาตหรือใบอนุญาตจากกระทรวงของสหภาพเมียนมา กรม และหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้อง หรือเพื่อดำเนินการจดทะเบียน

(อี)

แจ้งให้คณะกรรมการทราบทันทีหากพบทรัพยากรแร่ธรรมชาติหรือโบราณวัตถุและ ทรัพย์สมบติที่ไม่เกี่ยวกับการลงทุนที่ได้รับอนุญาตอยู่บนที่ดินหรือใต้พื้นดินของที่ดินที่ผู้ลงทุนได้รับสิทธิเช่าหรือใช้ และไม่ได้รวมอยู่ในสัญญา หากคณะกรรมการอนุญาต ผู้ลงทุนสามารถดำเนินการลงทุนในที่ดินนั้นต่อไปได้ แต่หากคณะกรรมการไม่อนุญาต ผู้ลงทุนต้องโอนและดำเนินการลงทุนในสถานที่อื่นที่ผู้ลงทุนเลือกและได้รับอนุญาตแล้ว

(เอฟ)

ไม่ทำให้ลักษณะภูมิประเทศเปลี่ยนไปอย่างมีนัยสำคัญหรือทำให้พื้นดินของที่ดินที่ผู้ลงทุนมีสิทธิเช่าและยกระดับสูงขึ้น เว้นแต่ได้รับอนุญาตจากคณะกรรมการ

(จี)

ปฏิบัติตามกฎหมาย หลักเกณฑ์ วิธีการ และมาตรฐานสากลในการปฏิบัติที่ดีสำหรับการลงทุนของผู้ลงทุนเพื่อไม่ให้เกิดความเสียหาย มลพิษ และความสูญเสียแก่สิ่งแวดล้อมทางธรรมชาติและสังคม และไม่ก่อให้เกิดความเสียหายต่อมรดกทางวัฒนธรรม

(เอช)

จัดทำบัญชีและงบการเงิน ตลอดจนข้อมูลด้านการเงินที่จำเป็นที่เกี่ยวกับการลงทุนที่ดำเนินการตามใบอนุญาตหรือคำสั่งให้ความเห็นชอบอย่างเหมาะสมตามมาตรฐานการบัญชีที่เป็นที่ยอมรับโดยสากลหรือในประเทศ

(ไอ)

หยุดและเลิกการลงทุนต่อเมื่อได้ชำระค่าชดเชยแก่ลูกจ้างแล้วตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องสำหรับการผิดสัญญาจ้าง การหยุดการลงทุน การขายและโอนการลงทุน การเลิกลงทุน หรือการลดจำนวนพนักงาน

(เจ)

จ่ายค่าจ้างและเงินเดือนให้แก่ลูกจ้างตามกฎหมาย หลักเกณฑ์ วิธีการ คำสั่ง และอื่นๆ ตลอดระยะเวลาที่ระงับการลงทุนโดยมีเหตุอันสมควร

(เค)

จ่ายค่าชดเชยและเงินชดใช้ตามกฎหมายที่ใช้บังคับแก่ลูกจ้างที่เกี่ยวข้องหรือผู้สืบสิทธิของลูกจ้างรายนั้นสำหรับการบาดเจ็บ ทุพพลภาพ โรคภัยไข้เจ็บ และความตายที่เกิดจากการทำงาน

(แอล)

ดูแลให้ผู้เชี่ยวชาญชาวต่างชาติ หัวหน้าชาวต่างชาติ ซึ่งผู้ลงทุนจ้างให้ทำงานเพื่อการลงทุนของตน ตลอดจนครอบครัวของบุคคลดังกล่าว ปฏิบัติตามกฎหมาย กฎระเบียบ คำสั่ง และข้อบังคับที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนวัฒนธรรมและประเพณีของเมียนมา

(เอ็ม)

เคารพและปฏิบัติตามกฎหมายแรงงาน

(เอ็น)

มีสิทธิยื่นฟ้องและอาจถูกฟ้องตามกฎหมายนี้ได้

(โอ)

จ่ายค่าชดเชยความเสียหายที่เกิดแก่ผู้เสียหาย หากมีความเสียหายต่อสิ่งแวดล้อมทางธรรมชาติและความสูญเสียทางเศรษฐกิจและสังคมจากการตัดไม้หรือสกัดทรัพยากรธรรมชาติที่ไม่อยู่ในขอบเขตของการลงทุนที่ได้รับอนุญาต เว้นแต่กิจกรรมที่จำเป็นต่อการดำเนินการลงทุนตามใบอนุญาตหรือคำสั่งให้ความเห็นชอบ

(พี)

อนุญาตให้คณะกรรมการเข้าตรวจสอบสถานที่ใดๆ เมื่อคณะกรรมการได้บอกกล่าวการเข้าตรวจสอบการลงทุนล่วงหน้าแล้ว

(คิว)

ก่อนทำการประเมิน ดำเนินการให้ได้มาซึ่งใบอนุญาตหรือคำสั่งให้ความเห็นชอบของคณะกรรมการสำหรับการลงทุนที่จำเป็นต้องได้รับความเห็นชอบล่วงหน้าตามกฎหมายรักษาสิ่งแวดล้อมและตามวิธีการประเมินผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม โดยต้องยื่นผลการประเมินผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมดังกล่าวต่อคณะกรรมการในระหว่างระยะเวลาที่ได้รับอนุญาตให้ดำเนินการลงทุน

  1. เมื่อมีการประเมินตามข้อ 65 (คิว) แล้ว คณะกรรมการอาจบริหารการลงทุนนั้นๆ ได้ตามที่จำเป็น รวมถึงอนุญาตให้จัดทำการลงทุนนั้นหรือสั่งให้ระงับการลงทุนไว้ก่อน
  2. ผู้ลงทุนต้องปฏิบัติหน้าที่ตามที่กำหนดไว้ในข้อ 65 ตั้งแต่วันที่กฎหมายนี้มีผลบังคับใช้
  3. หากผู้ลงทุนเลิกการลงทุนก่อนระยะเวลาที่ได้รับอนุญาตสิ้นสุดลง เมื่อได้ชำระภาษีที่ได้รับการยกเว้นและ/หรือลดหย่อนที่ผู้ลงทุนได้รับสิทธิสำหรับการนำเข้าตามที่ได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการ ผู้ลงทุนต้องขาย ส่งออก และจำหน่ายบรรดาเครื่องจักร อุปกรณ์ ยานยนต์ และสิ่งของอื่นทั้งหมดที่นำเข้ามาจากต่างประเทศและมีการจัดเก็บภาษีศุลกากร ภาษีอื่นที่จัดเก็บภายในประเทศ และภาษีที่ได้รับการยกเว้นและ/หรือลดหย่อนที่ผู้ลงทุนได้รับสิทธิสำหรับการลงทุนนั้น
  4. เมื่อได้รับใบอนุญาตหรือคำสั่งให้ความเห็นชอบจากคณะกรรมการ ผู้ลงทุนต้องจัดทำและลงลายมือชื่อในสัญญาที่จำเป็นต้องจัดทำกับกรมที่เกี่ยวข้องหรือหน่วยงานของรัฐ และดำเนินการลงทุน
  5. ในการขยายระยะเวลาและแก้ไขเพิ่มเติมสัญญาตามข้อ 69 ผู้ลงทุนต้องได้รับอนุญาตจากคณะกรรมการ
  6. ในการดำเนินการลงทุน ผู้ลงทุนต้องจัดทำการประเมินด้านสุขภาพ การประเมินผลกระทบต่อมรดกทางวัฒนธรรม การประเมินผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และการประเมินผลกระทบต่อสังคม ตามประเภทการลงทุน ตามกฎหมาย หลักเกณฑ์ ระเบียบ และวิธีการที่ใช้บังคับ
  7. ในระหว่างระยะเวลาการลงทุนที่ได้รับอนุญาต ผู้ลงทุนต้องแจ้งให้คณะกรรมการทราบหากมีการเช่าช่วง จำนอง การโอนหุ้น หรือการโอนกิจการเกี่ยวกับการลงทุนที่ได้รับใบอนุญาตหรือคำสั่งให้ความเห็นชอบ


หมวด 17
ประกันภัย

  1. ผู้ลงทุนต้องทำประกันกับบริษัทประกันใดๆ ที่ได้รับอนุญาตให้ประกอบกิจการประกันในสหภาพเมียนมา ในประเภทตามที่กฎระเบียบกำหนด


หมวด 18
การยกเว้นและการลดหย่อน

  1. เพื่อวัตถุประสงค์ในการส่งเสริมการพัฒนาของสหภาพเมียนมาโดยการอนุญาตให้มีการลงทุนในอุตสาหกรรมที่ต้องการให้มีการพัฒนาและเพื่อการพัฒนาอย่างเป็นสัดส่วนในเขตและรัฐต่างๆ เมื่อผู้ลงทุนยื่นคำขอรับการยกเว้นหรือการลดหย่อนภาษี คณะกรรมการต้องตรวจสอบคำขอนั้นและอาจอนุญาตให้มีการยกเว้นหรือการลดหย่อนภาษีนั้น

75.

(เอ)

สำหรับการยกเว้นภาษีเงินได้ โซน (1) เป็นเขตการลงทุนที่พัฒนาน้อยที่สุด โซน (2) เป็นเขตการลงทุนที่พัฒนาปานกลาง และโซน (3) เป็นเขตการลงทุนที่พัฒนาแล้ว คณะกรรมการโดยความเห็นชอบของรัฐบาล ต้องออกประกาศและอาจให้การยกเว้นภาษีเงินได้เป็นเวลา 7 ปีติดต่อกัน รวมปีที่เริ่มประกอบกิจการในเชิงพาณิชย์ สำหรับการลงทุนในโซน (1) เป็นเวลา 5 ปีติดต่อกัน รวมปีที่เริ่มประกอบกิจการในเชิงพาณิชย์ สำหรับการลงทุนในโซน (2) และเป็นเวลา 3 ปีติดต่อกัน รวมปีที่เริ่มประกอบกิจการในเชิงพาณิชย์ สำหรับการลงทุนในโซน (3)

(บี)

โดยได้รับความเห็นชอบจากรัฐบาล คณะกรรมการอาจเปลี่ยนแปลงการกำหนดเขตการลงทุนได้เป็นเป็นระยะๆ โดยพิจารณาจากระดับการพัฒนาของเขตการลงทุนนั้น

(ซี)

การยกเว้นภาษีเงินได้จะให้ได้เฉพาะแก่อุตสาหกรรมที่ได้รับการส่งเสริมตามที่คณะกรรมการประกาศกำหนด

  1. นอกเหนือจากบทบัญญัติในหมวด 11 เรื่องการปฏิบัติต่อผู้ลงทุนแล้ว รัฐบาลอาจจัดให้เงินสนับสนุน เงินทุน การพัฒนาความสามารถ และการฝึกอบรมให้แก่ผู้ลงทุนที่เป็นพลเมืองเมียนมาและธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อมของพลเมืองก็ได้ นอกจากนี้ รัฐบาลอาจอนุญาตให้มีการยกเว้นและลดหย่อนให้สำหรับพื้นที่ที่มีการประกอบธุรกิจของพลเมืองเมียนมาหรือดำเนินกิจกรรมด้านเศรษฐกิจอื่นๆ
  2. คณะกรรมการอาจตรวจสอบและอนุญาตให้มีการยกเว้นหรือลดหย่อนภาษีศุลกากรและภาษีอื่นที่จัดเก็บภายในประเทศดังต่อไปนี้ให้แก่ผู้ลงทุนได้หากมีการยื่นคำขอ

(เอ)

การยกเว้นและ/หรือการลดหย่อนภาษีศุลกากรและภาษีอื่นที่จัดเก็บภายในประเทศสำหรับเครื่องจักร อุปกรณ์ เครื่องมือ ส่วนประกอบของเครื่องจักร อะไหล่ วัสดุที่ใช้ในการก่อสร้างซึ่งไม่มีจำหน่ายในประเทศ และวัสดุที่ใช้ในธุรกิจ ซึ่งมีการนำเข้าเนื่องจากจำเป็นต้องใช้ ในระหว่างระยะเวลาการก่อสร้างหรือระหว่างการเตรียมการลงทุน

(บี)

การยกเว้นและ/หรือการลดหย่อนภาษีศุลกากรและภาษีอื่นที่จัดเก็บภายในประเทศสำหรับการนำเข้าวัตถุดิบและสินค้ากึ่งสำเร็จรูปที่ใช้สำหรับการผลิตสินค้าส่งออก ในกิจกรรมการลงทุนที่มุ่งเพื่อการส่งออก (Export-Oriented Investment)

(ซี)

การขอคืนภาษีศุลกากรและ/หรือภาษีอื่นที่จัดเก็บภายในประเทศสำหรับวัตถุดิบและสินค้ากึ่งสำเร็จรูปนำเข้าที่ใช้ในการผลิตสินค้าส่งออก

(ดี)

หากการลงทุนมีปริมาณสูงขึ้นและมีการขยายการลงทุนจากเดิมในระหว่างระยะเวลาที่ได้รับอนุญาตให้ลงทุน เมื่อได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการ การยกเว้นและ/หรือการลดหย่อนภาษีศุลกากรและภาษีอื่นที่จัดเก็บภายในประเทศสำหรับเครื่องจักร อุปกรณ์ เครื่องมือ ส่วนประกอบของเครื่องจักร อะไหล่ และวัสดุที่ใช้ในธุรกิจ และวัสดุที่ใช้ในการก่อสร้างซึ่งไม่มีจำหน่ายในประเทศ ซึ่งมีการนำเข้าเนื่องจากจำเป็นต้องใช้ในธุรกิจที่มีการขยายนั้น

  1. คณะกรรมการอาจตรวจสอบและอนุญาตให้มีการยกเว้นและลดหย่อนดังต่อไปนี้ให้แก่ผู้ลงทุนได้หากมีการยื่นคำขอ

(เอ)

การยกเว้นหรือการลดหย่อนภาษีเงินได้หากมีการนำกำไรที่ได้รับจากการลงทุนที่ได้รับใบอนุญาตหรือคำสั่งให้ความเห็นชอบไปใช้ลงทุนในการลงทุนนั้นหรือการลงทุนในลักษณะคล้ายกันภายในหนึ่งปี

(บี)

สิทธิในการคิดค่าเสื่อมราคาของทรัพย์สินเพื่อประโยชน์ในการประเมินภาระภาษีเงินได้นั้น ให้เริ่มจากปีที่เริ่มดำเนินกิจการในเชิงพาณิชย์ โดยใช้อัตราค่าเสื่อมโดยอ้างอิงอายุการใช้งานที่น้อยกว่าอายุการใช้งานที่กำหนดไว้สำหรับเครื่องจักร อุปกรณ์ อาคาร หรือสินทรัพย์ที่เป็นทุนซึ่งใช้ในการลงทุน

(ซี)

สิทธิในการหักค่าใช้จ่ายที่เกิดจากการวิจัยและพัฒนาเกี่ยวกับการลงทุนที่จัดทำขึ้นในสหภาพเมียนมาและจำเป็นต่อการพัฒนาทางด้านเศรษฐกิจของสหภาพเมียนมา ออกจากรายได้ที่นำมาประเมินภาระภาษี

  1. ผู้ลงทุนต่างชาติต้องชำระภาษีเงินได้ในอัตราเดียวกับพลเมืองที่อาศัยอยู่ในสหภาพเมียนมา
  2. เว้นแต่การยกเว้นและการลดหย่อนตามข้อ 75 ข้อ 77 และข้อ 78 ภาษีต่างๆ ให้จัดเก็บตามกฎหมายภาษีที่เกี่ยวข้อง
  3. การยกเว้นและการลดหย่อนตามข้อ 75 ข้อ 77 ข้อ 78 และข้อ 80 ไม่ใช้กับธุรกิจที่ประกอบกิจการในเขตเศรษฐกิจพิเศษ


หมวด 19
การระงับข้อพิพาท

  1. เพื่อให้กฎหมายนี้สามารถใช้บังคับได้อย่างมีประสิทธิภาพ คณะกรรมการต้องกำหนดและใช้กลไกการร้องเรียนเพื่อระงับและป้องกันการเกิดข้อพิพาท ตลอดจนดำเนินการสอบสวนที่เกี่ยวข้องกับเรื่องการลงทุนก่อนดำเนินคดีตามกฎหมาย
  2. ก่อนนำข้อพิพาทระหว่างผู้ลงทุนกับสหภาพเมียนมาหรือระหว่างผู้ลงทุนด้วยกันเสนอต่อศาลหรืออนุญาโตตุลาการ คู่ความทุกฝ่ายต้องใช้ความพยายามโดยสุจริตที่จะยุติข้อพิพาทนั้นอย่างฉันมิตร
  3. ในกรณีที่ข้อพิพาทเกี่ยวกับการลงทุนใดๆ ไม่สามารถยุติได้อย่างฉันมิตร

(เอ)

หากสัญญาที่เกี่ยวข้องไม่ได้กำหนดให้ใช้กลไกการระงับข้อพิพาทนั้น ให้ศาลที่มีเขตอำนาจหรืออนุญาโตตุลาการวินิจฉัยข้อพิพาทนั้นตามกฎหมายที่ใช้บังคับ

(บี)

หากสัญญาที่เกี่ยวข้องมีการกำหนดให้ใช้กลไกการระงับข้อพิพาทนั้น ให้ปฏิบัติและดำเนินการตามกลไกนั้น


หมวด 20
โทษทางปกครอง

  1. ให้คณะกรรมการดำเนินการดังต่อไปนี้

(เอ)

คณะกรรมการอาจกำหนดโทษทางปกครองอย่างใดอย่างหนึ่งหรือหลายอย่างต่อไปนี้แก่ผู้ลงทุนที่ฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามบทบัญญัติใดๆ แห่งกฎหมายนี้ ตลอดจนหลักเกณฑ์ ระเบียบ ประกาศ คำสั่ง ข้อบังคับ วิธีการ หรือข้อกำหนดและเงื่อนไขในใบอนุญาตหรือคำสั่งให้ความเห็นชอบที่ออกโดยคณะกรรมการ

(i)

ตักเตือน

(ii)

ระงับการประกอบธุรกิจเป็นการชั่วคราว

(iii)

ระงับการได้รับการยกเว้นหรือการลดหย่อนภาษีเป็นการชั่วคราว

(iv)

เพิกถอนใบอนุญาตหรือคำสั่งให้ความเห็นชอบ

(v)

จัดให้ธุรกิจนั้นอยู่ในบัญชีซึ่งต้องห้ามไม่ให้ได้รับใบอนุญาตหรือคำสั่งให้ความเห็นชอบใดๆ อีกในอนาคต

(บี)

คณะกรรมการต้องแจ้งให้ผู้ลงทุนทราบว่าจะมีการกำหนดโทษทางปกครองตามข้อ (เอ) ข้างต้นแก่ผู้ลงทุนก่อนที่จะกำหนดโทษนั้น และผู้ลงทุนมีสิทธิทำหนังสือซักถามเกี่ยวกับโทษทางปกครองดังกล่าว

(ซี)

ในการแจ้งคำตัดสินลงโทษทางปกครองตามข้อ (เอ) ข้างต้น คณะกรรมการต้องชี้แจงเหตุผลในการกำหนดโทษทางปกครองนั้นไปพร้อมกันด้วย

 

86.

(เอ)

ผู้ลงทุนที่ไม่เห็นด้วยกับคำตัดสินของคณะกรรมการตามข้อ 85 อาจอุทธรณ์ต่อรัฐบาลได้ภายใน 60 วันนับจากวันที่ของคำตัดสินนั้นตามที่กฎหมายกำหนด

 

(บี)

รัฐบาลอาจกลับ เพิกถอน หรือยืนตามคำตัดสินของคณะกรรมการ

 

(ซี)

คำตัดสินของรัฐบาลนั้นถือเป็นที่สุดและเป็นที่ยุติ

  1. ผู้ลงทุนต้องถูกดำเนินคดีหากมีหลักฐานที่เชื่อถือได้ว่าผู้ลงทุนนั้นให้ข้อมูลโดยไม่สุจริต เป็นเท็จ หรือมีการปกปิดข้อมูลเมื่อยื่นคำขอ บัญชี พยานหลักฐานประกอบสัญญา ข้อมูลทางการเงิน หรือหลักฐานการจ้างงาน เป็นต้น ต่อคณะกรรมการ หรือกรมหรือหน่วยงานของรัฐใดๆ ที่เกี่ยวข้อง
  2. หากผู้ลงทุนไม่ปฏิบัติตามหรือฝ่าฝืนบทบัญญัติแห่งกฎหมายนี้ รวมถึงดำเนินการลงทุนที่ต้องห้ามตามข้อ 41 ผู้ลงทุนรายนั้นต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมายนี้ และกฎหมายอื่นที่ใช้บังคับ หากกฎหมายกำหนดไว้เช่นนั้น

 

หมวด 21
ข้อยกเว้น

  1. กฎหมายนี้ไม่มีข้อความใดที่สามารถตีความได้ว่าเป็นการห้ามไม่ให้รัฐบาลประกาศใช้หรือกำหนดมาตรการต่อไปนี้อย่างเหมาะสมและเป็นธรรม

(เอ)

มาตรการที่จำเป็นเพื่อปกป้องรักษาศีลธรรมอันดีและความสงบเรียบร้อยของประชาชน

(บี)

มาตรการที่จำเป็นเพื่อปกป้องชีวิตหรือสุขภาพของมนุษย์ สัตว์ หรือพืช

(ซี)

การคุ้มครองผู้ลงทุน ผู้ฝาก บุคคลหรือหน่วยงานในตลาดการเงิน ผู้ถือกรมธรรม์ ผู้เรียกร้องค่าสินไหมทดแทนตามกรมธรรม์ หรือบุคคลซึ่งให้ความไว้วางใจแก่สถาบันการเงินให้ทำหน้าที่แทนตน

(ดี)

มาตรการดูแลให้สถาบันการเงินมีความปลอดภัย มีความมั่นคงดำรงอยู่ได้ น่าเชื่อถือ และมีเสถียรภาพ

(อี)

มาตรการดูแลให้ระบบการเงินของสหภาพเมียนมามีความยืนหยัดในหลักการและมีเสถียรภาพ

(เอฟ)

มาตรการที่มีความมุ่งหมายเพื่อดูแลให้การประเมินภาระภาษีหรือการเรียกเก็บภาษีทางตรงจากผู้ลงทุนมีความยุติธรรมและมีประสิทธิภาพ

(จี)

มาตรการคุ้มครองสมบัติและมรดกของชาติซึ่งมีคุณค่าทางศิลปะ ประวัติศาสตร์ หรือโบราณคดี

(เอช)

การอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและปกป้องไม่ให้การผลิตหรืออุปโภคบริโภคภายในประเทศสร้างความเสียหายแก่ทรัพยากรธรรมชาติ


หมวด 22
ข้อยกเว้นเพื่อความมั่นคง

90.

(เอ)

กฎหมายนี้ไม่มีข้อความใดที่สามารถตีความได้ว่าเป็นการห้ามไม่ให้รัฐบาลประกาศใช้หรือบังคับใช้มาตรการที่จำเป็นเพื่อปกป้องประโยชน์ด้านความมั่นคงที่สำคัญ

 

(บี)

บทบัญญัติแห่งกฎหมายนี้ไม่เป็นการห้ามไม่ให้รัฐบาลดำเนินการต่างๆ ซึ่งจำเป็นต่อการปกป้องประโยชน์ด้านความมั่นคงที่สำคัญ ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียงการกระทำดังต่อไปนี้

i.

การกระทำที่เกี่ยวกับการซื้อขายอาวุธยุทโธปรณ์ ตลอดจนสินค้าและวัสดุอื่นซึ่งจัดให้แก่กองทัพหรือหน่วยงานเพื่อความมั่นคงอื่นๆ ไม่ว่าโดยทางตรงหรือทางอ้อม

ii.

การกระทำที่จำเป็นในภาวะสงครามหรือเหตุฉุกเฉินอื่นในด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ


หมวด 23
เบ็ดเตล็ด

  1. หากบทบัญญัติแห่งกฎหมายนี้ขัดต่อสนธิสัญญาและความตกลงระหว่างประเทศซึ่งสหภาพเมียนมาเป็นภาคี ให้บังคับตามบทบัญญัติแห่งสนธิสัญญาและความตกลงระหว่างประเทศสำหรับส่วนที่มีความขัดแย้งกันนั้น
  2. ในระหว่างระยะเวลาหลังจากประกาศใช้กฎหมายนี้และก่อนจะประกาศกำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการที่จำเป็น ให้หลักเกณฑ์ที่ออกตามกฎหมายว่าด้วยการลงทุนโดยต่างชาติ (กฎหมายรัฐบัญญัติฉบับที่ 21/2012) มีผลบังคับต่อไปเท่าที่ไม่ขัดต่อกฎหมายนี้
  3. ให้ใบอนุญาตให้ลงทุนที่คณะกรรมการออกให้ ซึ่งเป็นไปตามกฎหมายว่าด้วยการลงทุนโดยต่างชาติแห่งสหภาพเมียนมา (กฎหมายแห่งสภาฟื้นฟูกฎหมายและระเบียบแห่งรัฐฉบับที่ 10/1988) หรือกฎหมายว่าด้วยการลงทุนโดยต่างชาติ (กฎหมายรัฐบัญญัติฉบับที่ 21/2012) หรือกฎหมายว่าด้วยการลงทุนโดยพลเมืองเมียนมา (กฎหมายรัฐบัญญัติฉบับที่ 18/2013) มีผลบังคับต่อไปจนกว่าระยะเวลาที่อนุญาตจะสิ้นสุดลง
  4. โดยไม่คำนึงถึงบทบัญญัติในกฎหมายอื่นใด เรื่องที่เกี่ยวข้องกับบทบัญญัติแห่งกฎหมายนี้ให้เป็นไปตามกฎหมายนี้
  5. หากมีหลักฐานที่เชื่อถือได้ว่ากรรมการรายใดๆ ในคณะกรรมการการลงทุนแห่งเมียนมา กรรมการรายใดๆ ในคณะกรรมการหรือหน่วยงานใดๆ หรือข้าราชการรายใดๆ ปฏิบัติหน้าที่โดยสุจริตตามอำนาจที่ตนมีตามกฎหมายนี้ บุคคลดังกล่าวจะไม่ต้องถูกฟ้องร้องดำเนินคดีไม่ว่าในทางแพ่งหรือทางอาญา
  6. ในการปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมายนี้ กรรมการรายใดๆ ในคณะกรรมการและเจ้าหน้าที่ในสำนักงานคณะกรรมการต้องดำเนินการอย่างเป็นกลางตามกฎหมายต่อต้านการทุจริต
  7. กรรมการในคณะกรรมการต้องไม่ใช้ข้อมูลที่ตนได้มาเพื่อวัตถุประสงค์อื่นใดนอกจากเพื่อปฏิบัติตามวัตถุประสงค์ของกฎหมายนี้
  8. การตัดสินใดๆ ของคณะกรรมการตามอำนาจที่ให้ไว้โดยกฎหมายนี้ถือเป็นที่สุดและเป็นที่ยุติ เว้นแต่ในเรื่องการกำหนดโทษทางปกครองตามข้อ 85 ซึ่งอาจอุทธรณ์ได้
  9. ในการดำเนินการตามบทบัญญัติแห่งกฎหมายนี้ กระทรวงการวางแผนและการเงินต้องดำเนินการดังต่อไปนี้

(เอ)

ปฏิบัติหน้าที่ในสำนักงานของคณะกรรมการ

(บี)

รับผิดชอบค่าใช้จ่ายของคณะกรรมการตามกฎและระเบียบข้อบังคับด้านการเงิน

  1. ในการดำเนินการตามกฎหมายนี้

(เอ)

กระทรวง โดยความเห็นชอบของรัฐบาล อาจออกหลักเกณฑ์ ระเบียบ ประกาศ ข้อบังคับ คำสั่ง และวิธีการต่างๆ ตามที่จำเป็น

(บี)

คณะกรรมการมีอำนาจในการออกคำสั่ง ประกาศ ข้อบังคับ และวิธีการ

  1. ให้ยกเลิกกฎหมายว่าด้วยการลงทุนโดยต่างชาติ (กฎหมายรัฐบัญญัติฉบับที่ 21/2012) และกฎหมายว่าด้วยการลงทุนโดยพลเมืองเมียนมา (กฎหมายรัฐบัญญัติฉบับที่ 18/2013) และใช้กฎหมายนี้แทน อย่างไรก็ดี แม้กฎหมายว่าด้วยการลงทุนโดยต่างชาติจะถูกยกเลิกไป คณะกรรมการการลงทุนแห่งเมียนมาที่จัดตั้งโดยกฎหมายดังกล่าวจะยังคงมีอำนาจในการปฏิบัติหน้าที่ต่อไปได้จนถึงวันที่คณะกรรมการได้รับมอบอำนาจหน้าที่ตามกฎหมายนี้

 

ข้าพเจ้าได้ลงลายมือชื่อไว้ตามรัฐธรรมนูญแห่งสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา

ถิ่น จอ (ลงลายมือชื่อด้วยวิธีทางอิเล็กทรอนิกส์)

ประธานาธิบดี
สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา

 

เอกสารประกอบ

Myanmar_investment_law_official_translation_23-1-2017.pdf