เมื่อ 16 ตุลาคม 2568 พลเอกอาวุโส มิน อ่อง ไหล่ รักษาการประธานาธิบดีเมียนมาและประธาน State Security and Peace Commission กล่าวในที่ประชุมระหว่างรัฐมนตรีและมุขมนตรีรัฐและภาคต่าง ๆ ของเมียนมาในประเด็นที่เกี่ยวกับเศรษฐกิจ ดังนี้
- รัฐบาลให้ความสำคัญกับการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม โดยการเพิ่มผลผลิตพืชผลโดยเฉพาะพืชเศรษฐกิจจะช่วยพัฒนาภาคอุตสาหกรรม ภาคการผลิต และภาคบริการของประเทศ
- รัฐบาลได้อนุญาตให้เกษตรกรขยายพื้นที่เพาะปลูกดอกทานตะวันและกาแฟ เพื่อให้มีน้ำมันพืชเพียงพอใช้ภายในประเทศ และเพื่อเพิ่มปริมาณผลผลิตกาแฟให้มากขึ้น รวมถึงอนุญาตให้เกษตรกรปลูกกาแฟ Robusta ทั่วประเทศ โดยเกษตรกรจำเป็นจะต้องใช้พื้นที่เพาะปลูกอย่างเต็มศักยภาพเพื่อปลูกกาแฟดังกล่าว
- ในส่วนของพืชเศรษฐกิจ เมียนมามีพื้นที่ปลูกฝ้ายประมาณ 500,000 เอเคอร์ในภาคมะกวย ภาคมัณฑะเลย์ รัฐสะกาย และภาคพะโค โดยรัฐบาลจะได้ประโยชน์อย่างมาก หากสามารถปลูกฝ้ายได้ตามเป้าหมาย นอกจากนี้ สนับสนุนให้เกษตรกรปลูกพืชเศรษฐกิจ อาทิ ฝ้าย โกโก้ กาแฟ มะม่วง ยางพารา และมะม่วงหิมพานต์ ให้ประสบผลสำเร็จภายใต้แผนระยะยาวเพื่อพัฒนาพืชเศรษฐกิจเหล่านี้
- รัฐบาลได้ตั้งเป้าหมายระดับชาติในการสร้างความมั่งคั่งให้กับประเทศและความมั่นคงด้านอาหาร โดยภาคปศุสัตว์จะต้องได้รับการพัฒนาอย่างเป็นขั้นตอน เพื่อให้เมียนมามีความมั่นคงด้านอาหารตามจำนวนประชากรในแต่ละพื้นที่ ทั้งนี้ ประชาชนจะต้องมีส่วนร่วมในภาคปศุสัตว์ เพื่อให้มีไข่ เนื้อสัตว์ และปลาเพียงพอต่อการบริโภค
ที่มา- นสพ. Global New Light of Myanmar
https://www.gnlm.com.mm/strong-governance-earns-peoples-trust/